หมวด ซ

สัญญาซื้อขาย

สัญญาเลขที่…………………..………

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ……………………………………………ถนน………………….………...

แขวง……………………….เขต…………………….จังหวัด ........................................ เมื่อวันที่…………...

เดือน ...........................................พ.ศ………………….ระหว่าง………………….......…...............................

โดย ...................…………………………….………………………….…….เป็นผู้แทน ทำการตามระเบียบ

กรม……………………………….……ว่าด้วยการมอบอำนาจในการสั่งซื้อและสั่งจ้างแต่หัวหน้าหน่วยงาน

ต่าง ๆ ในกรม…………………..………………( ฉบับที่ 14 ) พ.ศ. 2528 ลงวันที่ 14 เดือน กุมภาพันธ์

พ.ศ. 2528 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ซื้อ” ฝ่ายหนึ่ง กับ………………………………………………

อยู่เลขที่…………..………...…ถนน………....……………………ตำบล / แขวง.....……………………......

อำเภอ / เขต………………………..จังหวัด......…………………….….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ขาย”

อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีข้อตกลงกันดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ผู้ซื้อตกลงซื้อและผู้ขายตกลงขาย……………………………………ตาม…………………..

จำนวน………………..เป็นราคารวมทั้งสิ้น…………………….บาท (…………………………………….)

ข้อ 2. ผู้ขายรับรองว่า สิ่งของที่ขายให้ตามสัญญานี้มีคุณภาพไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ตาม…………..

…………………………แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้และเป็นของแท้ ของใหม่

ไม่ใช่เก่าเก็บ ยังไม่เคยใช้งานมาก่อนมีคุณภาพใช้การได้ดีตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ

ในกรณีที่เป็นการซื้อสิ่งของซึ่งต้องมีการตรวจทดลอง ผู้ขายรับรองว่าเมื่อตรวจทดลองแล้วต้องมี

คุณภาพไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ด้วย หากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในการตรวจทดลองหรือทดสอบตามกรรมวิธีหรือขั้น

ตอนของผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดในความเสียหายใด ๆ ที่

เกิดขึ้นแก่สิ่งของที่ตรวจทดลองทั้งสิ้น

ข้อ 3. ผู้ขายสัญญาว่าจะส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อ ณ …………………………

…………………………ภายในกำหนด……………..วัน (…………………....………) นับแต่วันลงนามใน

สัญญาเป็นต้นไปซึ่งครบกำหนดในวันที่………..เดือน…….......................……..พ.ศ…....….... ให้ถูกต้องและ

ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1 แห่งสัญญานี้พร้อมทั้งหีบห่อหรือเครื่องรัดพันผูกโดยเรียบร้อย

การส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบเพียงครั้งเดียวหรือส่งมอบหลายครั้ง ผู้ขาย

จะต้องแจ้งกำหนดเวลาส่งมอบแต่ละครั้งโดยทำเป็นหนังสือ นำไปยื่นต่อผู้ซื้อ ณ…………………………..

ในเวลาราชการ ก่อนวันส่งมอบไม่น้อยกว่า.............วัน (............................................วัน) ทำการ

ข้อ 4. ถ้าปรากฏว่าสิ่งของที่ผู้ขายส่งมอบไม่ตรงตามสัญญา ข้อ 1 ผู้ซื้อทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับ

ของนั้น ในกรณีเช่นว่านี้ ผู้ขายต้องรีบนำสิ่งของนั้นกลับคืนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือต้องทำการแก้ไข

ให้ถูกต้องตามสัญญา โดยผู้ซื้อไม่ต้องใช้ค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายให้แต่ประการใด และระยะเวลาที่เสียไป

เพราะเหตุดังกล่าว ผู้ขายจะนำมาเป็นเหตุขอขยายอายุสัญญาไม่ได้

หากผู้ขายไม่นำสิ่งของกลับคืนหรือทำการแก้ไขให้ถูกต้องภายในกำหนด ........ วัน (............วัน) นับ

ตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อ ผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อดำเนินการกับสิ่งของนั้นตามที่เห็นสมควร โดยผู้ขายจะ

ไม่เรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้ซื้อทั้งสิ้น

ข้อ 5. เมื่อผู้ซื้อหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ซื้อ ได้ตรวจรับสิ่งของที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้ว

ผู้ซื้อหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ซื้อจะออกหลักฐานการตรวจรับไว้ให้ เพื่อผู้ขายนำมาเป็นหลักฐานประกอบการขอ

รับเงินค่าสิ่งของนั้น

ข้อ 6. ผู้ขายรับประกันความชำรุดบกพร่อง หรือขัดข้อง ของสิ่งของตามสัญญานี้ เป็นเวลา

……..….ปี…………เดือน นับแต่วันที่ผู้ซื้อได้รับมอบโดยให้นับวันรับมอบเป็นวันเริ่มต้น และภายใน

กำหนดเวลาดังกล่าว หากสิ่งของตามสัญญานี้เกิดชำรุดบกพร่องหรือขัดข้องเนื่องมาจากการใช้งาน

ตามปกติ ผู้ขายต้องจัดการซ่อมแซมหรือแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดีดังเดิม ภายใน……...………...

วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยให้นับวันที่ได้รับแจ้งเป็นวันเริ่มต้น

ข้อ 7. ในวันทำสัญญานี้ ผู้ขายได้นำหลักทรัพย์เป็น……………....…….เป็นจำนวนร้อยละ ...........

(..................................) ของราคาสิ่งของทั้งหมดคิดเป็นเงิน……….……….บาท (…….…………………..)

มามอบไว้แก่ผู้ซื้อเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้

หลักประกันที่ผู้ขายนำมอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ซื้อจะคืนให้เมื่อผู้ขายพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญานี้แล้ว

ข้อ 8. เมื่อครบกำหนดส่งมอบของตามสัญญานี้แล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่

ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน ให้ถือว่าผู้ขายผิดนัดและ

ผิดสัญญา ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน

ในกรณีผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออก

หนังสือค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 เป็นจำนวนเงินทั้งหมด หรือแต่บางส่วนก็ได้แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร

และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในกำหนด ........

วัน (........................วัน ) นับแต่วันที่บอกเลิกสัญญา โดยให้นับวันที่บอกเลิกสัญญาเป็นวันเริ่มต้น จนถึงวัน

ที่ผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณี ผู้ขายยอม

รับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจารกราคาที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย และผู้ซื้อยังมีสิทธิปรับผู้ขายเป็นรายวันใน

อัตราร้อยละ .......... (......................) ของราคาสิ่งของทั้งหมดที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันที่ถัดจากวันครบ

กำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญา จนถึงวันบอกเลิกสัญญาอีกโสดหนึ่งด้วย

ข้อ 9. ในกรณีผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามสัญญาข้อ 8 ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันใน

อัตราร้อยละ ............. ( ...................... ) ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนด

ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา จนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วน

การคิดค่าปรับในกรณีสิ่งของที่ตกลงซื้อขายประกอบกันเป็นชุด แต่ผู้ขายส่งมอบขาดส่วนประกอบ

ส่วนหนึ่งส่วนใดไป ทำให้ไม่สามารถใช้การได้โดยสมบูรณ์ ให้ถือว่ายังไม่ได้ส่งมอบสิ่งของนั้นเลย และ

ให้คิดค่าปรับจากราคาสิ่งของเต็มทั้งชุด

ในกรณีการซื้อสิ่งของที่คิดราคารวมทั้งค่าติดตั้งหรือทดลองด้วยถ้าติดตั้งหรือทดลองเกินกว่า

กำหนดตามสัญญาเป็นจำนวนวันเท่าใด ให้ปรับเป็นรายวันในอัตราที่กำหนดของราคาทั้งหมด

ในระหว่างที่มีการปรับนั้น ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อจะใช้สิทธิ

บอกเลิกสัญญาและเมื่อผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้วผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้อง

จากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 กับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้

ในสัญญาข้อ 8 วรรค 2 และปรับผู้ขายเป็นรายวันในอัตราร้อยละ ....................................... ( ............ )

ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบทั้งหมดนับตั้งแต่วันที่ถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญา

จนถึงวันบอกเลิกสัญญาอีกด้วย

ข้อ 10. ถ้าสิ่งของที่จะต้องส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อตามสัญญานี้ เป็นสิ่งของที่ผู้ขายจะต้องสั่งหรือนำเข้า

มาจากต่างประเทศ และสิ่งของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางเดินหรือที่มีเรือไทยเดินอยู่ และ

สามารถให้บริการับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้ขายต้องจัดการให้สิ่งของ

ดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย จากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่

จะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ก่อนบรรทุกของนั้นลงเรื่องอื่นที่มิใช่

เรือไทย หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรื่อนอื่นได้ ทั้งนี้

ไม่ว่าการสั่งหรือสั่งซื้อสิ่งของดังกล่าวจากต่างประเทศจะเป็นแบบ เอฟ.โอ.บี. ซี. แอนด์ เอฟ ซี.ไอ.เอฟ.

หรือแบบอื่นใด

ข้อ 11. ในการส่งมอบสิ่งของตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อ ถ้าสิ่งของนั้นเป็นสิ่งของตามสัญญาข้อ 8

ผู้ขายจะต้องส่งมอบในตราส่ง (Bill of lading ) หรือสำเนาใบตราส่งสำหรับของนั้น ซึ่งแสดงว่าได้

บรรทุกมาโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ให้แก่ผู้ซื้อพร้อมกับการส่งมอบสิ่งของด้วย

ในกรณีที่สิ่งของดังกล่าวไม่ได้บรรทุกจากต่างประเทศมายังประเทศไทยโดยเรื่อไทยหรือเรือที่มี

สิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ผู้ขายต้องส่งมอบหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการ

ส่งเสริมการพาณิชยนาวีให้บรรทุกของโดยเรืออื่นได้ หรือหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้ชำระค่าธรรมเนียมพิเศษ

เนื่องจากการไม่บรรทุกของโดยเรือไทย ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวีแล้วอย่างใดอย่าง

หนึ่งแก่ผู้ซื้อด้วย

ในกรณีที่ผู้ขายไม่ส่งมอบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวในสองวรรคข้างต้นให้แก่ผู้ซื้อ แต่จะ

ขอส่งมอบสิ่งของดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อก่อนโดยยังไม่รับชำระเงินค่าสิ่งของ ผู้ซื้อมีสิทธิรับสิ่งของดังกล่าวไว้

ก่อนและชำระเงินค่าสิงของเมื่อผู้ขายได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนดังกล่าวแล้วได้

ข้อ 12. ภายในกำหนดเวลาตามสัญญานี้ ถ้ามีเหตุดังต่อไปนี้เกิดขึ้น

( 1 ) เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของผู้ซื้อ

( 2 ) เหตุสุดวิสัย

( 3 ) เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้ขายไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย

ผู้ขายต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ซื้อทราบเป็นหนังสือภายใน.........วัน (...................วัน) นับแต่เหตุ

ได้สิ้นสุดลง หากมิได้แจ้งภายในเวลาที่กำหนด ผู้ขายจะกล่าวอ้างเพื่อเป็นเหตุขอขยายอายุสัญญาในภายหลังมิ

ได้หากผู้ซื้อเห็นว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ผู้ซื้อจะต่ออายุสัญญาให้เท่ากับวันเวลาที่เหตุการณ์นั้นเป็น

อุปสรรคต่อการส่งมอบ โดยผู้ขายต้องมีคำขอต่อายุสัญญาเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลและเอกสารสนับสนุน

ว่า ได้มีความล่าช้าเกิดขึ้นเพราะเหตุดังกล่าว

ข้อ 13. ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดด้วยเหตุใด ๆ ก็ตามจนเป็นเหตุให้เกิดความ

เสียหายแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายยอมรับผิดและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากที่ผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น

ให้แก่ผู้ซื้อโดยสิ้นเชิงภายในกำหนด .........วัน (..................) นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อโดยให้นับวันที่

ได้รับแจ้งเป็นวันเริ่มต้น

สัญญานี้ทำขึ้น................ฉบับ มีข้อความเป็นอย่างเดียวกัน คู่สัญญาได้อ่านเข้าใจข้อความโดยละเอียด

ตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา ( ถ้ามี ) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและเก็บไว้ฝ่าย

ละฉบับ

ลงชื่อ…………………………………..…….ผู้ซื้อ

(………………………………………..)

ลงชื่อ…………………………………..…....ผู้ขาย

(………………………………………..)

ลงชื่อ……………………..……..….……….พยาน

(………………………………………..)

ลงชื่อ………………………...…..………….พยาน

(………………………..……….……..)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สัญญาซื้อขายเครื่องคอมพิวเตอร์

ทำที่.............................……….............

วันที่....…........เดือน.........……….............พ.ศ..……......

สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง …………………………………………สำนักงานตั้งอยู่เลขที่…………..…

ถนน…………………………………………...แขวง/ตำบล………………………...…………...…………..

เขต/อำเภอ…………………………………………….จังหวัด…………………………………………...…..

โดย…………………………….…….…ผู้มีอำนาจดำเนินการแทน ซึ่งต่อไปในที่นี้เรียกว่า “ผู้ซื้อ” ฝ่ายหนึ่ง

กับ……………………………………………………………….สำนักงานตั้งอยู่เลขที่……...……..

ถนน…………………………………………...แขวง/ตำบล………………………...……………...………..

เขต/อำเภอ…………………………………………….จังหวัด……………………………………...………..

โดย……………………………………………..........……….…ซึ่งต่อไปในที่นี้เรียกว่า "ผู้ขาย" อีกฝ่ายหนึ่ง

คู่สัญญาได้ตกลงกันดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ผู้ซื้อตกลงซื้อและผู้ขายตกลงขายเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับใช้ในกิจการของผู้ซื้อตาม

รายการและรายละเอียดแนบท้ายสัญญาหมายเลข 1 โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ซึ่งต่อไปใน

สัญญานี้เรียกว่า “สินค้า”

ข้อ 2. ผู้ซื้อตกลงซื้อและผู้ขายตกลงขายสินค้า ในราคาทั้งสิ้น……………………...………….บาท

(……………………………………………….) โดยแยกการชำระเงินเป็นเงินสกุลต่าง ๆ ดังนี้

2.1 เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินทั้งสิ้น……………………………….............…………….บาท

(……………………………………………………ดอลลาร์สหรัฐ )

2.2 เงินสกุลบาท เป็นเงินทั้งสิ้น…………………………………………….............………….บาท

(……………………………………………………)

อัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ…………………………….............……………บาท

ราคาสินค้าตามวรรคแรก ผู้ขายมิได้รวมบรรดาค่าภาษีต่าง ๆ ในการนำสินค้าเข้าเนื่องจาก

ผู้ซื้อได้รับสิทธิยกเว้นภาษี ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน

ข้อ 3. การชำระเงินส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2.1 นั้น ผู้ขายตกลงให้

ผู้ซื้อชำระเงินตามสัญญานี้ โดยการเปิด แอล ซี ส่งตรงไปยังต่างประเทศ ตามรายละเอียด แอล ซี ซึ่งระบุ

ไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข 2 และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย โดยผู้ขายลดราคาค่าสินค้าลง

………………………บาท (………………………………………………….) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเปิด แอล ซี

ฉะนั้น ราคาค่าสินค้าจึงลดลงจาก………………………บาท (………………………....…………………..)

คงเหลือเป็นเงิน………………………….…บาท (………………………………………………...………..)

ส่วนการชำระเงินตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 นั้น ผู้ซื้อตกลงจะชำระเงินให้แก่ผู้ขายภายในกำหนดเวลา

………………….......……..วัน นับแต่วันที่ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย และผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว

ข้อ 4. ผู้ขายจะเป็นผู้ดำเนินการตามพิธีการศุลกากรและนำสินค้าซึ่งอยู่ในสภาพเรียบร้อยตามสัญญา

นี้มาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ ณ……………………………………………………………………ภายในกำหนด

เวลา………………………..เดือน หลังจากวันที่ผู้ซื้อเปิด แอล ซี ไปยังต่างประเทศ

ข้อ 5. หากผู้ขายผิดสัญญา ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อได้ทันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ใน

ข้อ 4. ซึ่งความล่าช้านี้มิได้เกิดจากเหตุสุดวิสัยแล้ว ผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงินวันละ………% ของ

ราคาสินค้าที่ยังไม่ได้ส่งมอบ นับแต่วันที่ผู้ขายผิดนัดจนกว่าผู้ขายจะส่งสินค้าให้ครบถ้วนตามสัญญาข้อ 1.

หากผู้ซื้อผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาข้อ 3. แล้ว ผู้ซื้อยินยอมให้ผู้ขายคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ

………………….ต่อปี ของจำนวนเงินที่ค้างชำระอยู่เป็นต้นไป จนกว่าผู้ซื้อจะได้ชำระราคาเสร็จสิ้น

ข้อ 6. ผู้ขายยินดีรับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของสินค้าที่ซื้อขาย ภายในกำหนดเวลา………..

……………...เดือน นับแต่วันที่ได้ติดตั้งเรียบร้อย และผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าแล้ว หากมีความเสียหายใด ๆ

เกิดขึ้นกับสินค้าในสภาพใช้งานปกติภายในระยะเวลาดังกล่าว โดยไม่ใช่ความผิดของผู้ซื้อหรือตัวแทนของ

ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายจะดำเนินการแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้านั้นโดยเร็ว เพื่อให้อยู่ในสภาพที่ใช้งาน

ได้ตามปกติ

ข้อ 7. ผู้ขายไม่รับผิดชอบในกรณีที่สินค้าถูกซ่อมหรือเปลี่ยนแปลงโดยบุคคลอื่นนอกจากผู้ขาย

หรือตัวแทนของผู้ขาย หรือกรณีที่ความเสียหายเกิดจากการกระทำของผู้ซื้อหรือตัวแทนของผู้ซื้อที่นอก

เหนือสภาพการใช้งานตามปกติ

ข้อ 8. การติดตั้งสินค้า ผู้ซื้อจะเตรียมสถานที่สำหรับติดตั้งไว้ตามแบบแปลน และรายละเอียดแนบ

ท้ายสัญญาหมายเลข 3 โดยผู้ขายเป็นผู้จ่ายค่าติดตั้งและค่าวัสดุอุปกรณ์ในการบำรุงรักษาให้ภายใน..…..……

……………...เดือน นับจากวันติดตั้งเสร็จ

8.1 ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดสถานที่ติดตั้งสินค้า และมีหน้าที่จัดการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมที่จะใช้

กับสินค้า ตลอดจนจัดทำให้อณหภูมิของห้องติดตั้งสินค้าให้ได้มาตรฐาน ตามคำแนะนำของผู้ขายให้แล้ว

เสร็จไม่ต่ำกว่า 7 วัน ก่อนกำหนดการติดตั้งสินค้า

8.2 ถ้าเกิดการล่าช้าเนื่องจากการจัดหาสถานที่และอุปกรณ์ ตลอดจนการติดตั้งระบบไฟฟ้า และ

คู่สายโทรศัพท์ตามความในข้อ 8.1 ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันที่จะเปลี่ยนแปลงเวลาการส่งมอบเสียใหม่ได้

และไม่ถือเป็นการผิดสัญญา

8.3 ผู้ขายมีหน้าที่ติดตั้งสินค้าโดยใช้แรงงาน อุปกรณ์ และชิ้นส่วนของผู้ขายเอง ทั้งนี้ จะจำกัด

แต่เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเดินสายเคเบิ้ล ที่ต่อเชื่อระหว่างอุปกรณ์และชิ้นส่วนของสินค้า ภายในอาคารเดียว

กัน โดยใช้เวลาติดตั้ง……………วัน

ข้อ 9. ผู้ขายจะจัดการอบรมพนักงานของบริษัทผู้ซื้อ ให้มีความสามารถในการควบคุมและปฏิบัติ

งานเพื่อใช้กับสินค้าที่ซื้อขายกัน นับแต่วันที่สินค้านี้สามารถทำงานได้ ทั้งนี้ผู้ซื้อมีหน้าที่ต้องจัดหาเจ้าหน้า

ที่ของผู้ซื้อที่มีคุณสมบัติและวุฒิเหมาะสมให้มารับการฝึกอบรม ความล่าช้าในการฝึกอบรมอันเนื่องจาก

คุณสมบัติและวุฒิของเจ้าหน้าที่ของผู้ซื้อ ไม่ถือเป็นข้อบกพร่องหรือผิดสัญญาของผู้ขาย

ข้อ 10. เพื่อเป็นหลักประกันในการดำเนินการตามสัญญา ผู้ขายได้วางหนังสือค้ำประกันเลขที่…....

………………..ลงวันที่…………………………………ของธนาคาร…………………………………...…..

สำนักงานเลขที่………………………………………..ถนน…………………………………………...….…

ตำบล/แขวง………………………...…………………อำเภอ/เขต……………………………………...……

จังหวัด……………………………………………..ภายในวงเงิน……………………………………….บาท

(………………………………....……….) มอบให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ตั้งแต่วันทำสัญญานี้โดยหนังสือค้ำประกัน

ตามที่ระบุนี้ มีผลบังคับใช้เป็นเวลา…………...............…เดือน นับแต่วันที่ผู้ซื้อได้รับมอบสินค้า ในกรณี

ผู้ขายปฏิบัติผิดเงื่อนไขใด ๆ ในสัญญานี้ ผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อเรียกเอาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากธนาคาร

ผู้ออกหนังสือค้ำประกันตามวงเงินที่ค้ำประกันแต่ต้องแจ้งผ่านผู้ขายในสัญญานี้ทราบล่วงหน้า

ข้อ 11. ในกรณีมีข้อพิพาทเกิดขึ้นที่เกี่ยวกับสัญญานี้ ให้นำข้อพิพาทเสนอต่อศาลแพ่ง

กรุงเทพมหานคร ชี้ขาดตัดสินโดยใช้กฎหมายของประเทศไทย

ข้อ 12. สัญญานี้มีผลใช้บังคับนับแต่วันที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญานี้

สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความ

และเงื่อนไขแห่งสัญญานี้โดยละเอียดแล้ว จึงได้ลงมือชื่อและประทับตราสำคัญ (ถ้ามี) ต่อหน้าพยานไว้

เป็นสำคัญแล้ว และถือไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ

ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ซื้อ

(…………………………………………….)

ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ขาย

(…………………………………………….)

ลงชื่อ…………………………………………….พยาน

(…………………………………………….)

ลงชื่อ…………………………………………….พยาน

(…………………………………………….)