20 พฤษภาคม 2552

หมวด ท

สัญญาตัวแทน

ทำที่……………………………………………

…………………………………………….…..

วันที่…………………………………………………….

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………………………….อยู่บ้านเลขที่………...……

ถนน…………………….แขวง…………………….เขต………………………จังหวัด..................................

ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ตัวการ” ฝ่ายหนึ่ง กับ………………………......………………………….

อยู่บ้านเลขที่………………ถนน……………………แขวง………………………เขต………………………

จังหวัด....................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ตัวแทน” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายตกลงทำ

สัญญากันมีข้อความดังนี้

ข้อ 1. ตัวการตกลงแต่งตั้งให้ตัวแทนเป็นผู้มีอำนาจเป็นผู้แทนจำหน่าย…………………………….

…………..……………………………ซึ่งเป็นสินค้าของตัวการในเขตจังหวัด………………………………

แต่ผู้เดียว โดยมีกำหนดระยะเวลา...............ปี นับแต่วันที่ทำสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไป

ข้อ 2. ตัวแทนตกลงรับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของตัวการตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยจะกระทำ

การดังกล่าวด้วยความซื้อสัตย์สุจริต สนับสนุนและส่งเสริมสินค้าของตัวการให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

และรับว่าจะไม่ทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เป็นที่เสื่อมเสีย และกระทบกระเทือนต่อการจำหน่ายสินค้า

ดังกล่าว

ข้อ 3. ตัวการจะเป็นผู้กำหนดราคาสินค้าและแจ้งให้ตัวแทนทราบ ตัวแทนจะต้องจำหน่ายสินค้า

ในราคาที่ตัวการกำหนด

ข้อ 4. ตัวแทนตกลงว่าในระหว่างอายุสัญญานี้ ตัวแทนจะไม่จำหน่ายสินค้าชนิดเดียวกันหรือเป็น

ตัวแทนจำหน่ายสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันให้แก่บุคคลอื่นอีก ไม่ว่ากระทำในนามของตนเอง

หรือบุคคลอื่นใด

ข้อ 5. ตัวการจะเป็นผู้นำสินค้าไปส่งให้แก่ตัวแทนตามภูมิลำเนาของตัวแทนตามที่ระบุไว้ในสัญญา

นี้ หลังจากที่ได้รับสินค้าแล้วตัวแทนจะต้องลงชื่อในเอกสารใบรับสินค้าและนำสินค้าไปเก็บรักษาไว้ใน

สถานที่ที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้สินค้าเสื่อมคุณภาพหรือได้รับความเสียหายทั้งต้องทำบัญชีรายการ

จำนวนสินค้าที่ได้รับ จำนวนสินค้าที่จำหน่ายหรือขายได้ และส่งสำเนาบัญชีรายการสินค้าดังกล่าวให้

ตัวแทนทราบทุก ๆ ระยะเวลา..............เดือน

ข้อ 6. ตัวการตกลงจะจ่ายค่าบำเหน็จให้แก่ตัวแทนในอัตราร้อยละ.......ตามราคาสินค้าที่จำหน่ายได้

โดยจะจ่ายค่าบำเหน็จให้ภายในกำหนด.........วัน หลังจากทีได้รับสำเนาบัญชีรายการสินค้าที่จำหน่ายได้แล้ว

ข้อ 7. ตัวแทนจะต้องกระทำการจำหน่ายสินค้าด้วยตนเอง จะแต่งตั้งให้บุคคลใดเป็นตัวแทนช่วง

ในการจำหน่ายสินค้าไม่ได้

ข้อ 8. เมื่อตัวการมีความประสงค์จะทราบความเป็นไปของการที่ได้มอบหมายแก่ตัวแทนนั้น

ในเวลาใด ๆ ซึ่งสมควรแก่เหตุ ตัวแทนก็ต้องแจ้งให้ตัวการทราบและเมื่อการเป็นตัวแทนสิ้นสุดลงแล้ว

ตัวแทนต้องแถลงบัญชีด้วย

ข้อ 9. เงินและทรัพย์สินอย่างอื่น หรือสิทธิใด บรรดาที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทน

นั้น ตัวแทนต้องส่งให้แก่ตัวการจงสิ้น

ข้อ 10. ถ้าตัวแทนเอาเงินซึ่งควรจะได้ส่งแก่ตัวการไปใช้เป็นประโยชน์ตนเสีย ตัวแทนจะต้องเสีย

ดอกเบี้ยในเงินจำนวนนั้นในอัตราร้อยละ.......ต่อปีนับแต่วันที่ได้เอาเงินนั้นใช้ไป แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิ

ของตัวการที่จะนำมาเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาตัวแทน

ข้อ 11. เมื่อสัญญาตัวแทนระงับสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุใด ตัวแทนต้องส่งมอบสินค้า เงินและ

ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทนให้แก่ตัวการโดยพลัน

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเป็น.........ฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจ

ข้อความโดยตลอดแล้ว เห็นว่า ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่าย จึงได้ลงลายมือชื่อให้ไว้เป็น

หลักฐานต่อหน้าพยานสองคนโดยต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ…………………………………………...ตัวการ

ลงชื่อ…………………………………………...ตัวแทน

ลงชื่อ…………………………………………...พยาน

ลงชื่อ…………………………………………...พยาน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สัญญาทรัสต์รีซีท

วันที่……………...……………………………

เรียน ธนาคาร……………………………………...จำกัด.………………….

โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้า…………………………………………………………………...……..

ขอยืนยันต่อธนาคาร…….…………..………จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ธนาคาร” ว่า ข้าพเจ้าได้ รับมอบ

เอกสารแสดงสิทธิในสินค้า ซึ่งได้ระบุไว้ตามรายละเอียดของสินค้า และจำนวนเงินตามหนี้ทรัสต์รีซีทที่

แนบท้ายหนังสือนี้ และถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งสัญญานี้ด้วย ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “รายละเอียดแนบท้าย”

ไปจากธนาคาร เพื่อนำไปออกสินค้าที่ได้สั่งซื้อไว้แล้ว โดยที่ยังมิได้ชำระเงินค่าสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้

ในรายละเอียดแนบท้ายให้แก่ธนาคาร

ข้าพเจ้าขอรับรองว่ากรรมสิทธิ์ในสินค้าตามเอกสารแสดงสิทธิดังกล่าว เป็นของธนาคารแต่เพียง

ผู้ เดียว และการที่ธนาคารได้ยินยอมให้ข้าพเจ้าได้ยึดถือครอบครองเอกสารแสดงสิทธิในสินค้านั้นเป็นการ

กระทำ เพื่อประโยชน์ของข้าพเจ้าในการชำระหนี้ทรัสต์รีซีทให้แก่ธนาคารและขอให้สัญญต่อธนาคารดังมี

ข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1. เมื่อข้าพเจ้าได้รับสินค้าดังกล่าวมาแล้ว ข้าพเจ้าจะนำไปเก็บไว้ที่………………………....…

ถนน…………………………..ตำบล/แขวง………………………………อำเภอ/เขต………………...…….

จังหวัด………........................…...……และข้าพเจ้ายอมเสียค่าเช่าโกดัง, ค่าเก็บรักษาสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการ

ขอออกสินค้าและค่าอากรขาเข้าของสินค้าทั้งสิ้น และจะเก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์ของธนาคาร โดยไม่

เรียกร้องค่าตอบแทนจากธนาคาร และขอรับผิดชอบในความเสียหาย บุบสลาย สูญหาย หรือเสื่อมราคา

ของสินค้าดังกล่าวรวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลอื่นไม่ว่าด้วยเหตุใด แต่เพียงผู้เดียวทุกประการ

ข้อ 2. เมื่อข้าพเจ้าได้นำเอกสารแสดงสิทธิในสินค้าไปออกสินค้า และได้นำสินค้าไปเก็บไว้ที่

คลังสินค้าแล้ว ข้าพเจ้าจะนำใบรับคลังสินค้าซึ่งออกในนามธนาคารและใบประทวนสินค้าไปมอบให้

ธนาคารทันที เว้นแต่ธนาคารจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ข้อ 3. ในกรณีที่ข้าพเจ้าขายสินค้าที่ได้รับมอบจากธนาคารดังกล่าวในข้อ 1. ได้หรือกรณีที่สินค้า

ดังกล่าวถูกยึด, อายัด ข้าพเจ้าจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบทันที

ข้อ 4. ในกรณีที่ข้าพเจ้าได้ขายสินค้าดังกล่าว ไม่ว่าจะขายในรูปสินค้าวัตถุดิบ หรือในรูปสินค้า

สำเร็จรูป หรือนำสินค้าวัตถุดิบมาประกอบ, ผลิตแล้วนำออกขาย หรือถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะมิได้นำสินค้าออก

ขายก็ดี หรือถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะเป็นสินค้าประเภททุนซึ่งไม่ได้นำออกขายก็ตาม ข้าพเจ้าจะต้องนำเงินมา

ชำระค่าสินค้าในจำนวนและในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ ตามรายละเอียดแนบท้ายให้แก่ธนาคาร โดยคำนวณ

เงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายเป็นเงินไทย ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารต้องชำระ

ค่าสินค้าแทนข้าพเจ้า หรือตามอัตราที่ตกลงกันไว้หรือในอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร ณ วันครบกำหนด

ชำระเงิน ตามทรัสต์รีซีทหรือในอัตราที่ได้กำหนดไว้ในรายละเอียดแนบท้ายหนังสือนี้ โดยข้าพเจ้ายินยอม

ให้ ธนาคารเป็นผู้เลือกที่จะใช้อัตราใดแล้วแต่จะเห็นสมควร ตลอดจนยอมให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยในจำนวน

เงินที่ระบุไว้ตามรายละเอียดแนบท้ายในอัตราสูงสุด ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บได้ตามที่มีประกาศของ

ธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติในเรื่องดอกเบี้ยและส่วนลด

(ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ……..........…..ต่อปี) นับแต่วันที่ธนาคารได้ชำระเงินค่าสินค้าแทนข้าพเจ้ารวมทั้งเสีย

ค่าธรรมเนียมค่าใช้ จ่ายใด ๆ อันเกี่ยวกับหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือนี้ทุกอย่างทุกประการ

ข้อ 5. ธนาคารมีสิทธิเรียกให้ข้าพเจ้าชำระหนี้ทรัสต์รีซีทบางส่วนหรือทั้งหมดก่อนถึงวันครบ

กำหนดชำระตามรายละเอียดแนบท้ายเมื่อใดก็ได้ หากธนาคารเห็นสมควร โดยไม่ต้องคำนึงว่าข้าพเจ้าจะได้

ขายสินค้าได้บางส่วนหรือทั้งหมดหรือไม่ หรือแม้จะยังไม่ถึงวันครบกำหนดชำระตามรายละเอียดแนบท้าย

ดังกล่าวก็ตาม

ข้อ 6. ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้าพเจ้ายอมให้ธนาคารถือว่าข้าพเจ้าตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญา และให้

ธนาคารใช้สิทธินำสินค้ากลับไปสู่การครอบครองของธนาคาร และ/หรือ ยึดเงินที่ขายสินค้าได้ทั้งหมด

โดยไม่ต้องแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบล่วงหน้าแต่ประการใดถึงแม้จะยังไม่ครบกำหนดชำระเงินค่าสินค้าตามที่

ระบุไว้ ในรายละเอียดแนบท้ายก็ตาม

6.1 เมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถชำระเงินจำนวนใดจำนวนหนึ่งหรือหลายจำนวนตามรายละเอียดแนบ

ท้ายเมื่อถึงกำหนดชำระ

6.2 เมื่อข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติผิดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในสัญญานี้

6.3 เมื่อปรากฏว่าหลักฐาน หนังสือ ข้อรับรอง หรือเอกสารใดที่ข้าพเจ้ามอบให้แก่ธนาคาร

มีข้อความเท็จหรือเป็นเอกสารปลอมหรือไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย

6.4 เมื่อข้าพเจ้าถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือมีเหตุการณ์อื่นใดที่ธนาคารเห็นว่าอาจก่อให้เกิดความ

เสียหายต่อการดำเนินการหรือสถานะการเงินของข้าพเจ้า

6.5 เมื่อข้าพเจ้าตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ หรือถูกเจ้าพนักงานยึดหรือ

อายัดทรัพย์

6.6 เมื่อข้าพเจ้าผิดนัดชำระหนี้สินอื่น ๆ ที่มีอยู่ต่อธนาคาร

6.7 เมื่อสินค้าดังกล่าวเกิดความเสียหาย บุบสลาย สูญหายหรือเสื่อมราคาไม่ว่าด้วยเหตุใด

ข้อ 7. ในกรณีที่ข้าพเจ้าตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญาดังกล่าวในข้อ 6. ไม่ว่าธนาคารจะได้แจ้งให้

ข้าพเจ้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าข้าพเจ้าได้ตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญาแล้วหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้ายอม

ให้ธนาคารถือว่าเป็นการผิดนัดในเงินทุกจำนวนที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย และให้ถือว่าเงิน

ทุกจำนวนดังกล่าวถึงกำหนดชำระทันที และข้าพเจ้ายินยอมให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ระบุ

ไว้ในรายละเอียดแนบท้ายที่ค้างชำระดังกล่าวในอัตราตามที่กำหนดในข้อ 4. นับแต่วันที่ข้าพเจ้าตกเป็น

ผู้ผิดนัดผิดสัญญาจนกว่าจะชำระหนี้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายทั้งหมดเสร็จสิ้น

และข้าพเจ้ายินยอมให้ธนาคารหักบัญชีเงินฝากทุกประเภทของข้าพเจ้าที่มีอยู่กับธนาคารเพื่อชำระหนี้ของ

ข้าพเจ้าตามหนังสือฉบับนี้ได้ทันทีและเมื่อหักแล้วปรากฏยังเหลือหนี้ค้างชำระอยู่อีกเป็นจำนวนเท่าใด

ข้าพเจ้ายอมให้ธนาคารนำหนี้ที่เหลือค้างชำระดังกล่าวลงจ่ายในบัญชีกระแสรายวันของข้าพเจ้า และเป็นหนี้

ที่ข้าพเจ้าจะต้องชำระให้แก่ธนาคารพร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดดังกล่าวตามประเพณีการคิดดอกเบี้ยทบต้น

ในบัญชีกระแสรายวันของธนาคาร นับแต่วันที่เป็นหนี้ตามบัญชีกระแสรายวัน ตลอดจนรับผิดชดใช้ค่าเสีย

หายทั้งหลายในบรรดาที่ธนาคารจะได้รับอันเนื่องจากการผิดนัดผิดสัญญาของข้าพเจ้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายใน

การเตือน เรียกร้อง ทวงถาม ดำเนินคดี และการบังคับชำระหนี้จนเต็มจำนวนทุกอย่างทุกประการ

อนึ่ง ในกรณีที่มีการจำนองเป็นประกันหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือนี้และธนาคารได้บังคับจำนอง

เอาทรัพย์ที่จำนองขายทอดตลอดได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ หรือในกรณีธนาคารเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็น

สิทธิและราคาทรัพย์ที่จำนองต่ำกว่าจำนวนหนี้อยู่เท่าใด ข้าพเจ้ายอมชำระหนี้ที่ขาดจำนวนนั้นจากทรพย์สิน

อื่นของข้าพเจ้าแก่ธนาคารจนครบถ้วน

ข้อ 8. ในกรณีที่ธนาคารเรียกให้ข้าพเจ้าชำระหนี้ก่อนกำหนดตามข้อ 5. หรือในกรณีที่ข้าพเจ้าตกเป็น

ผู้ผิดนัดผิดสัญญาดังกล่าวในข้อ 6. และข้าพเจ้ายังขายสินค้าไม่หมด หากธนาคารมีความประสงค์จะให้

ข้าพเจ้าส่งมอบสินค้าที่เหลือ ข้าพเจ้าจะต้องส่งมอบสินค้าคืนให้แก่ธนาคารทันทีไม่ว่าสินค้านั้นจะได้นำไป

ประกอบเป็นวัตถุอื่นแล้วหรือไม่ก็ตาม โดยจะไม่เรียกร้องค่าเช่าโกดัง, ค่าออกสินค้า, ค่าอากรขาเข้า, เงิน

หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากธนาคารและธนาคารมีสิทธินำสินค้าที่ได้รับมอบมานี้ออกขายตามวิธีการและใน

ราคาที่ธนาคารเห็นสมควรแต่ฝ่ายเดียว โดยข้าพเจ้าจะไม่โต้แย้งแต่อย่างใดทั้งสิ้น หากขายแล้วได้เงินสุทธิ

หลังจากหักค่าธรรมเนียม, ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วไม่พอชำระค่าสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้ในรายละเอียด

แนบท้ายครบถ้วน ขาดอยู่เท่าไรข้าพเจ้ายอมชำระให้จนครบพร้อมดอกเบี้ยของจำนวนเงินที่ยังชำระไม่ครบ

ดังกล่าวในอัตราตามที่กำหนดในข้อ 4. นับแต่วันที่ธนาคารหักเงินค่าขายสินค้าชำระหนี้และปรากฏว่า

ยังเหลือหนี้ค้างชำระอยู่ต่อธนาคารอีกจนกว่าจะชำระเงินทุกจำนวนตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย

เสร็จสิ้น

ข้อ 9. ในกรณีที่ปรากฏภายหลังว่า เอกสารการส่งสินค้ามีข้อกำหนด, เงื่อนไข ไม่ตรงกับ

ข้อกำหนด และ/หรือ เงื่อนไขที่ระบุไว้ในคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตหรือเอกสารใดที่เกี่ยวข้องหรือ

ในเลตเตอร์ออฟเครดิตเองก็ตามหรือในกรณีที่เอกสารการส่งสินค้า และ/หรือ สินค้าเกิดความเสียหาย

หรือสูญหายไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด และไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเหตุใด ๆ แม้เป็นเหตุสุดวิสัยก็ตาม

ข้าพเจ้าก็ตกลงยินยอมชำระเงินค่าสินค้าให้กับธนาคารตามจำนวนและกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในรายละเอียด

แนบท้ายจนครบถ้วน โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น

ข้อ 10. ข้าพเจ้าจะไม่นำเอกสารแสดงสิทธิในสินค้า และ/หรือ สินค้าไปก่อให้เกิดภาระผูกพัน

ใด ๆ ตลอดระยะเวลาที่ยังเป็นหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือฉบับนี้อยู่ต่อธนาคาร

ข้อ 11. ข้าพเจ้าตกลงนำสินค้าดังกล่าวประกันอัคคีภัยไว้กับบริษัทประกันที่ธนาคารเห็นชอบใน

วงเงินเอาประกันไม่น้อยกว่าจำนวนเงินที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย โดยกำหนดให้ธนาคารเป็นผู้รับ

ประโยชน์ และข้าพเจ้าเป็นผู้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเอง โดยจะส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้ธนาคารเก็บ

ไว้ในทันทีที่ทำสัญญาประกันภัยเสร็จเรียบร้อย

หากข้าพเจ้าไม่ทำสัญญาประกันอัคคีภัยสินค้าดังกล่าวหรือไม่ยอมชำระค่าเบี้ยประกันไม่ว่างวดหนึ่ง

งวดใด ธนาคารมีสิทธิที่จะทำสัญญาประกันอัคคีภัย โดยระบุให้ธนาคารเป็นผู้รับประโยชน์หรือชำระ

ค่าเบี้ยประกันแทนข้าพเจ้าและข้าพเจ้าจะต้องชำระค่าเบี้ยประกัน ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายในการเอา

ประกันภัยสินค้าดังกล่าวให้แก่ธนาคารทันที โดยยอมให้ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากทุกประเภท

ของข้าพเจ้า เพื่อชำระค่าเบี้ยประกัน, ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้

อนึ่ง ข้าพเจ้าขอให้สัญญาว่า เมื่อได้ระบุให้ธนาคารเป็นผู้รับประโยชน์ในการเอาประกันภัย

ดังกล่าวแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขผู้รับประโยชน์จากธนาคารเป็นบุคคลนิติบุคคลอื่นเป็นอันขาด

ตลอดระยะเวลาที่ข้าพเจ้ายังชำระหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือฉบับนี้ให้แก่ธนาคารไม่ครบถ้วน

ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ให้สัญญา

ลงชื่อ…………………………………………….พยาน

ลงชื่อ…………………………………………….พยาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น