สัญญาตัวแทน
ทำที่……………………………………………
…………………………………………….…..
วันที่…………………………………………………….
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………………………….อยู่บ้านเลขที่………...……
ถนน…………………….แขวง…………………….เขต………………………จังหวัด..................................
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ตัวการ” ฝ่ายหนึ่ง กับ………………………......………………………….
อยู่บ้านเลขที่………………ถนน……………………แขวง………………………เขต………………………
จังหวัด....................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ตัวแทน” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายตกลงทำ
สัญญากันมีข้อความดังนี้
ข้อ 1. ตัวการตกลงแต่งตั้งให้ตัวแทนเป็นผู้มีอำนาจเป็นผู้แทนจำหน่าย…………………………….
…………..……………………………ซึ่งเป็นสินค้าของตัวการในเขตจังหวัด………………………………
แต่ผู้เดียว โดยมีกำหนดระยะเวลา...............ปี นับแต่วันที่ทำสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไป
ข้อ 2. ตัวแทนตกลงรับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของตัวการตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยจะกระทำ
การดังกล่าวด้วยความซื้อสัตย์สุจริต สนับสนุนและส่งเสริมสินค้าของตัวการให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
และรับว่าจะไม่ทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เป็นที่เสื่อมเสีย และกระทบกระเทือนต่อการจำหน่ายสินค้า
ดังกล่าว
ข้อ 3. ตัวการจะเป็นผู้กำหนดราคาสินค้าและแจ้งให้ตัวแทนทราบ ตัวแทนจะต้องจำหน่ายสินค้า
ในราคาที่ตัวการกำหนด
ข้อ 4. ตัวแทนตกลงว่าในระหว่างอายุสัญญานี้ ตัวแทนจะไม่จำหน่ายสินค้าชนิดเดียวกันหรือเป็น
ตัวแทนจำหน่ายสินค้าชนิดเดียวกันหรือประเภทเดียวกันให้แก่บุคคลอื่นอีก ไม่ว่ากระทำในนามของตนเอง
หรือบุคคลอื่นใด
ข้อ 5. ตัวการจะเป็นผู้นำสินค้าไปส่งให้แก่ตัวแทนตามภูมิลำเนาของตัวแทนตามที่ระบุไว้ในสัญญา
นี้ หลังจากที่ได้รับสินค้าแล้วตัวแทนจะต้องลงชื่อในเอกสารใบรับสินค้าและนำสินค้าไปเก็บรักษาไว้ใน
สถานที่ที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้สินค้าเสื่อมคุณภาพหรือได้รับความเสียหายทั้งต้องทำบัญชีรายการ
จำนวนสินค้าที่ได้รับ จำนวนสินค้าที่จำหน่ายหรือขายได้ และส่งสำเนาบัญชีรายการสินค้าดังกล่าวให้
ตัวแทนทราบทุก ๆ ระยะเวลา..............เดือน
ข้อ 6. ตัวการตกลงจะจ่ายค่าบำเหน็จให้แก่ตัวแทนในอัตราร้อยละ.......ตามราคาสินค้าที่จำหน่ายได้
โดยจะจ่ายค่าบำเหน็จให้ภายในกำหนด.........วัน หลังจากทีได้รับสำเนาบัญชีรายการสินค้าที่จำหน่ายได้แล้ว
ข้อ 7. ตัวแทนจะต้องกระทำการจำหน่ายสินค้าด้วยตนเอง จะแต่งตั้งให้บุคคลใดเป็นตัวแทนช่วง
ในการจำหน่ายสินค้าไม่ได้
ข้อ 8. เมื่อตัวการมีความประสงค์จะทราบความเป็นไปของการที่ได้มอบหมายแก่ตัวแทนนั้น
ในเวลาใด ๆ ซึ่งสมควรแก่เหตุ ตัวแทนก็ต้องแจ้งให้ตัวการทราบและเมื่อการเป็นตัวแทนสิ้นสุดลงแล้ว
ตัวแทนต้องแถลงบัญชีด้วย
ข้อ 9. เงินและทรัพย์สินอย่างอื่น หรือสิทธิใด ๆ บรรดาที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทน
นั้น ตัวแทนต้องส่งให้แก่ตัวการจงสิ้น
ข้อ 10. ถ้าตัวแทนเอาเงินซึ่งควรจะได้ส่งแก่ตัวการไปใช้เป็นประโยชน์ตนเสีย ตัวแทนจะต้องเสีย
ดอกเบี้ยในเงินจำนวนนั้นในอัตราร้อยละ.......ต่อปีนับแต่วันที่ได้เอาเงินนั้นใช้ไป แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิ
ของตัวการที่จะนำมาเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาตัวแทน
ข้อ 11. เมื่อสัญญาตัวแทนระงับสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ ตัวแทนต้องส่งมอบสินค้า เงินและ
ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทนให้แก่ตัวการโดยพลัน
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเป็น.........ฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจ
ข้อความโดยตลอดแล้ว เห็นว่า ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่าย จึงได้ลงลายมือชื่อให้ไว้เป็น
หลักฐานต่อหน้าพยานสองคนโดยต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ…………………………………………...ตัวการ
ลงชื่อ…………………………………………...ตัวแทน
ลงชื่อ…………………………………………...พยาน
ลงชื่อ…………………………………………...พยาน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สัญญาทรัสต์รีซีท
วันที่……………...……………………………
เรียน ธนาคาร……………………………………...จำกัด.………………….
โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้า…………………………………………………………………...……..
ขอยืนยันต่อธนาคาร…….…………..………จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ธนาคาร” ว่า ข้าพเจ้าได้ รับมอบ
เอกสารแสดงสิทธิในสินค้า ซึ่งได้ระบุไว้ตามรายละเอียดของสินค้า และจำนวนเงินตามหนี้ทรัสต์รีซีทที่
แนบท้ายหนังสือนี้ และถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งสัญญานี้ด้วย ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “รายละเอียดแนบท้าย”
ไปจากธนาคาร เพื่อนำไปออกสินค้าที่ได้สั่งซื้อไว้แล้ว โดยที่ยังมิได้ชำระเงินค่าสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้
ในรายละเอียดแนบท้ายให้แก่ธนาคาร
ข้าพเจ้าขอรับรองว่ากรรมสิทธิ์ในสินค้าตามเอกสารแสดงสิทธิดังกล่าว เป็นของธนาคารแต่เพียง
ผู้ เดียว และการที่ธนาคารได้ยินยอมให้ข้าพเจ้าได้ยึดถือครอบครองเอกสารแสดงสิทธิในสินค้านั้นเป็นการ
กระทำ เพื่อประโยชน์ของข้าพเจ้าในการชำระหนี้ทรัสต์รีซีทให้แก่ธนาคารและขอให้สัญญต่อธนาคารดังมี
ข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. เมื่อข้าพเจ้าได้รับสินค้าดังกล่าวมาแล้ว ข้าพเจ้าจะนำไปเก็บไว้ที่………………………....…
ถนน…………………………..ตำบล/แขวง………………………………อำเภอ/เขต………………...…….
จังหวัด………........................…...……และข้าพเจ้ายอมเสียค่าเช่าโกดัง, ค่าเก็บรักษาสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการ
ขอออกสินค้าและค่าอากรขาเข้าของสินค้าทั้งสิ้น และจะเก็บรักษาไว้เพื่อประโยชน์ของธนาคาร โดยไม่
เรียกร้องค่าตอบแทนจากธนาคาร และขอรับผิดชอบในความเสียหาย บุบสลาย สูญหาย หรือเสื่อมราคา
ของสินค้าดังกล่าวรวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลอื่นไม่ว่าด้วยเหตุใด แต่เพียงผู้เดียวทุกประการ
ข้อ 2. เมื่อข้าพเจ้าได้นำเอกสารแสดงสิทธิในสินค้าไปออกสินค้า และได้นำสินค้าไปเก็บไว้ที่
คลังสินค้าแล้ว ข้าพเจ้าจะนำใบรับคลังสินค้าซึ่งออกในนามธนาคารและใบประทวนสินค้าไปมอบให้
ธนาคารทันที เว้นแต่ธนาคารจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ข้อ 3. ในกรณีที่ข้าพเจ้าขายสินค้าที่ได้รับมอบจากธนาคารดังกล่าวในข้อ 1. ได้หรือกรณีที่สินค้า
ดังกล่าวถูกยึด, อายัด ข้าพเจ้าจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบทันที
ข้อ 4. ในกรณีที่ข้าพเจ้าได้ขายสินค้าดังกล่าว ไม่ว่าจะขายในรูปสินค้าวัตถุดิบ หรือในรูปสินค้า
สำเร็จรูป หรือนำสินค้าวัตถุดิบมาประกอบ, ผลิตแล้วนำออกขาย หรือถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะมิได้นำสินค้าออก
ขายก็ดี หรือถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะเป็นสินค้าประเภททุนซึ่งไม่ได้นำออกขายก็ตาม ข้าพเจ้าจะต้องนำเงินมา
ชำระค่าสินค้าในจำนวนและในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ ตามรายละเอียดแนบท้ายให้แก่ธนาคาร โดยคำนวณ
เงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายเป็นเงินไทย ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารต้องชำระ
ค่าสินค้าแทนข้าพเจ้า หรือตามอัตราที่ตกลงกันไว้หรือในอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร ณ วันครบกำหนด
ชำระเงิน ตามทรัสต์รีซีทหรือในอัตราที่ได้กำหนดไว้ในรายละเอียดแนบท้ายหนังสือนี้ โดยข้าพเจ้ายินยอม
ให้ ธนาคารเป็นผู้เลือกที่จะใช้อัตราใดแล้วแต่จะเห็นสมควร ตลอดจนยอมให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยในจำนวน
เงินที่ระบุไว้ตามรายละเอียดแนบท้ายในอัตราสูงสุด ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บได้ตามที่มีประกาศของ
ธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติในเรื่องดอกเบี้ยและส่วนลด
(ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ……..........…..ต่อปี) นับแต่วันที่ธนาคารได้ชำระเงินค่าสินค้าแทนข้าพเจ้ารวมทั้งเสีย
ค่าธรรมเนียมค่าใช้ จ่ายใด ๆ อันเกี่ยวกับหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือนี้ทุกอย่างทุกประการ
ข้อ 5. ธนาคารมีสิทธิเรียกให้ข้าพเจ้าชำระหนี้ทรัสต์รีซีทบางส่วนหรือทั้งหมดก่อนถึงวันครบ
กำหนดชำระตามรายละเอียดแนบท้ายเมื่อใดก็ได้ หากธนาคารเห็นสมควร โดยไม่ต้องคำนึงว่าข้าพเจ้าจะได้
ขายสินค้าได้บางส่วนหรือทั้งหมดหรือไม่ หรือแม้จะยังไม่ถึงวันครบกำหนดชำระตามรายละเอียดแนบท้าย
ดังกล่าวก็ตาม
ข้อ 6. ในกรณีดังต่อไปนี้ ข้าพเจ้ายอมให้ธนาคารถือว่าข้าพเจ้าตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญา และให้
ธนาคารใช้สิทธินำสินค้ากลับไปสู่การครอบครองของธนาคาร และ/หรือ ยึดเงินที่ขายสินค้าได้ทั้งหมด
โดยไม่ต้องแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบล่วงหน้าแต่ประการใดถึงแม้จะยังไม่ครบกำหนดชำระเงินค่าสินค้าตามที่
ระบุไว้ ในรายละเอียดแนบท้ายก็ตาม
6.1 เมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถชำระเงินจำนวนใดจำนวนหนึ่งหรือหลายจำนวนตามรายละเอียดแนบ
ท้ายเมื่อถึงกำหนดชำระ
6.2 เมื่อข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติผิดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในสัญญานี้
6.3 เมื่อปรากฏว่าหลักฐาน หนังสือ ข้อรับรอง หรือเอกสารใดที่ข้าพเจ้ามอบให้แก่ธนาคาร
มีข้อความเท็จหรือเป็นเอกสารปลอมหรือไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
6.4 เมื่อข้าพเจ้าถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือมีเหตุการณ์อื่นใดที่ธนาคารเห็นว่าอาจก่อให้เกิดความ
เสียหายต่อการดำเนินการหรือสถานะการเงินของข้าพเจ้า
6.5 เมื่อข้าพเจ้าตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์ หรือถูกเจ้าพนักงานยึดหรือ
อายัดทรัพย์
6.6 เมื่อข้าพเจ้าผิดนัดชำระหนี้สินอื่น ๆ ที่มีอยู่ต่อธนาคาร
6.7 เมื่อสินค้าดังกล่าวเกิดความเสียหาย บุบสลาย สูญหายหรือเสื่อมราคาไม่ว่าด้วยเหตุใด
ข้อ 7. ในกรณีที่ข้าพเจ้าตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญาดังกล่าวในข้อ 6. ไม่ว่าธนาคารจะได้แจ้งให้
ข้าพเจ้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าข้าพเจ้าได้ตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญาแล้วหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้ายอม
ให้ธนาคารถือว่าเป็นการผิดนัดในเงินทุกจำนวนที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย และให้ถือว่าเงิน
ทุกจำนวนดังกล่าวถึงกำหนดชำระทันที และข้าพเจ้ายินยอมให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ระบุ
ไว้ในรายละเอียดแนบท้ายที่ค้างชำระดังกล่าวในอัตราตามที่กำหนดในข้อ 4. นับแต่วันที่ข้าพเจ้าตกเป็น
ผู้ผิดนัดผิดสัญญาจนกว่าจะชำระหนี้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายทั้งหมดเสร็จสิ้น
และข้าพเจ้ายินยอมให้ธนาคารหักบัญชีเงินฝากทุกประเภทของข้าพเจ้าที่มีอยู่กับธนาคารเพื่อชำระหนี้ของ
ข้าพเจ้าตามหนังสือฉบับนี้ได้ทันทีและเมื่อหักแล้วปรากฏยังเหลือหนี้ค้างชำระอยู่อีกเป็นจำนวนเท่าใด
ข้าพเจ้ายอมให้ธนาคารนำหนี้ที่เหลือค้างชำระดังกล่าวลงจ่ายในบัญชีกระแสรายวันของข้าพเจ้า และเป็นหนี้
ที่ข้าพเจ้าจะต้องชำระให้แก่ธนาคารพร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดดังกล่าวตามประเพณีการคิดดอกเบี้ยทบต้น
ในบัญชีกระแสรายวันของธนาคาร นับแต่วันที่เป็นหนี้ตามบัญชีกระแสรายวัน ตลอดจนรับผิดชดใช้ค่าเสีย
หายทั้งหลายในบรรดาที่ธนาคารจะได้รับอันเนื่องจากการผิดนัดผิดสัญญาของข้าพเจ้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายใน
การเตือน เรียกร้อง ทวงถาม ดำเนินคดี และการบังคับชำระหนี้จนเต็มจำนวนทุกอย่างทุกประการ
อนึ่ง ในกรณีที่มีการจำนองเป็นประกันหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือนี้และธนาคารได้บังคับจำนอง
เอาทรัพย์ที่จำนองขายทอดตลอดได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ หรือในกรณีธนาคารเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็น
สิทธิและราคาทรัพย์ที่จำนองต่ำกว่าจำนวนหนี้อยู่เท่าใด ข้าพเจ้ายอมชำระหนี้ที่ขาดจำนวนนั้นจากทรพย์สิน
อื่นของข้าพเจ้าแก่ธนาคารจนครบถ้วน
ข้อ 8. ในกรณีที่ธนาคารเรียกให้ข้าพเจ้าชำระหนี้ก่อนกำหนดตามข้อ 5. หรือในกรณีที่ข้าพเจ้าตกเป็น
ผู้ผิดนัดผิดสัญญาดังกล่าวในข้อ 6. และข้าพเจ้ายังขายสินค้าไม่หมด หากธนาคารมีความประสงค์จะให้
ข้าพเจ้าส่งมอบสินค้าที่เหลือ ข้าพเจ้าจะต้องส่งมอบสินค้าคืนให้แก่ธนาคารทันทีไม่ว่าสินค้านั้นจะได้นำไป
ประกอบเป็นวัตถุอื่นแล้วหรือไม่ก็ตาม โดยจะไม่เรียกร้องค่าเช่าโกดัง, ค่าออกสินค้า, ค่าอากรขาเข้า, เงิน
หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากธนาคารและธนาคารมีสิทธินำสินค้าที่ได้รับมอบมานี้ออกขายตามวิธีการและใน
ราคาที่ธนาคารเห็นสมควรแต่ฝ่ายเดียว โดยข้าพเจ้าจะไม่โต้แย้งแต่อย่างใดทั้งสิ้น หากขายแล้วได้เงินสุทธิ
หลังจากหักค่าธรรมเนียม, ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วไม่พอชำระค่าสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้ในรายละเอียด
แนบท้ายครบถ้วน ขาดอยู่เท่าไรข้าพเจ้ายอมชำระให้จนครบพร้อมดอกเบี้ยของจำนวนเงินที่ยังชำระไม่ครบ
ดังกล่าวในอัตราตามที่กำหนดในข้อ 4. นับแต่วันที่ธนาคารหักเงินค่าขายสินค้าชำระหนี้และปรากฏว่า
ยังเหลือหนี้ค้างชำระอยู่ต่อธนาคารอีกจนกว่าจะชำระเงินทุกจำนวนตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย
เสร็จสิ้น
ข้อ 9. ในกรณีที่ปรากฏภายหลังว่า เอกสารการส่งสินค้ามีข้อกำหนด, เงื่อนไข ไม่ตรงกับ
ข้อกำหนด และ/หรือ เงื่อนไขที่ระบุไว้ในคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตหรือเอกสารใดที่เกี่ยวข้องหรือ
ในเลตเตอร์ออฟเครดิตเองก็ตามหรือในกรณีที่เอกสารการส่งสินค้า และ/หรือ สินค้าเกิดความเสียหาย
หรือสูญหายไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด และไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเหตุใด ๆ แม้เป็นเหตุสุดวิสัยก็ตาม
ข้าพเจ้าก็ตกลงยินยอมชำระเงินค่าสินค้าให้กับธนาคารตามจำนวนและกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในรายละเอียด
แนบท้ายจนครบถ้วน โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 10. ข้าพเจ้าจะไม่นำเอกสารแสดงสิทธิในสินค้า และ/หรือ สินค้าไปก่อให้เกิดภาระผูกพัน
ใด ๆ ตลอดระยะเวลาที่ยังเป็นหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือฉบับนี้อยู่ต่อธนาคาร
วงเงินเอาประกันไม่น้อยกว่าจำนวนเงินที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้าย โดยกำหนดให้ธนาคารเป็นผู้รับ
ประโยชน์ และข้าพเจ้าเป็นผู้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเอง โดยจะส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้ธนาคารเก็บ
ไว้ในทันทีที่ทำสัญญาประกันภัยเสร็จเรียบร้อย
หากข้าพเจ้าไม่ทำสัญญาประกันอัคคีภัยสินค้าดังกล่าวหรือไม่ยอมชำระค่าเบี้ยประกันไม่ว่างวดหนึ่ง
งวดใด ธนาคารมีสิทธิที่จะทำสัญญาประกันอัคคีภัย โดยระบุให้ธนาคารเป็นผู้รับประโยชน์หรือชำระ
ค่าเบี้ยประกันแทนข้าพเจ้าและข้าพเจ้าจะต้องชำระค่าเบี้ยประกัน ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายในการเอา
ประกันภัยสินค้าดังกล่าวให้แก่ธนาคารทันที โดยยอมให้ธนาคารมีสิทธิหักเงินจากบัญชีเงินฝากทุกประเภท
ของข้าพเจ้า เพื่อชำระค่าเบี้ยประกัน, ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้
ดังกล่าวแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขผู้รับประโยชน์จากธนาคารเป็นบุคคลนิติบุคคลอื่นเป็นอันขาด
ตลอดระยะเวลาที่ข้าพเจ้ายังชำระหนี้ทรัสต์รีซีทตามหนังสือฉบับนี้ให้แก่ธนาคารไม่ครบถ้วน
ลงชื่อ…………………………………………….ผู้ให้สัญญา
ลงชื่อ…………………………………………….พยาน
ลงชื่อ…………………………………………….พยาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น